World Barista Championship (WBC) – เป็นการแข่งขัน Barista ที่ถูกจัดขึ้นทุกปี ซึ่งสถานที่ในการจัดงานในแต่ละปีจะย้ายไปตามประเทศต่างๆทั่วโลก ซึ่งในปีนี้งานแข่งขันจัดขึ้นที่เมือง Amsterdam ประเทศ Natherlands มีผู้เข้าแข่งขันทั้งหมด 55 ประเทศ ดูรายชื่อผู้เข้าแข่งขัน และหนึ่งในนั้นเป็นผู้เข้าแข่งขันจากประเทศไทย
ผู้เข้าแข่งขันจากประเทศไทยคุณ Athip Archalerttrakool จากร้าน Factory Coffee
World Barista Championship
แบ่งการแข่งขันออกเป็นทั้งหมด 3 รอบรอบ Preliminary คัดผู้เข้าแข่งขันจาก 55 คนเหลือ 15 คนรอบ Semi-Final คัดผู้เข้าแข่งขันจาก 15 คนเหลือ 6 คนรอบ Final คัดผู้ที่จะได้รับรางวัลชนะเลิศจากแข่งขัน
ในแต่ละรอบผู้เข้าแข่งขันต้องเสิร์ฟ 12 แก้ว หรือแบ่งเป็นเครื่องดื่ม 3 ชนิด ชนิดละ 4 แก้วให้กับกรรมการ (Sensory Judge) ทั้ง 4 ท่านภายใน 15 นาที
*สำหรับกาแฟที่ใช้สามารถใช้เป็นกาแฟ Single Origin หรือ Blend หรือใช้กาแฟแตกต่างไปตามแต่ละเครื่องดื่ม
เครื่องดื่มทั้ง 3 ชนิดได้แก่
1. Espresso Shot (คะแนนเต็ม 56 คะแนนต่อ Sensory Judge)
Espresso shot x 4 Serves
สำหรับการเสิร์ฟ Espresso Shot หรือเครื่องดื่มที่ได้จากการสกัดกาแฟโดยใช้เครื่อง Espresso ผู้เข้าแข่งขันต้องใช้หัวชงสองหัว (ระยะเวลาในการสกัดทั้งสองหัวห้ามเกิน 3 วินาที)ในการสกัดกาแฟ 4 แก้วให้ให้ปริมาตรแก้วละ 30 ml บวกลบ 5 ml โดย Espresso Shot ต้องมี Crema ที่ชัดเจนและมีรสชาติตรงตามที่ผู้เข้าแข่งขันนำเสนอ
2. Milk Beverage (คะแนนเต็ม 31 คะแนนต่อ Sensory Judge)
Milk Beverage x 4 Serves
ต้องนำเสนอรสชาติที่เป็นอันหนึ่งอันเดียวกันระหว่างกาแฟและนมที่เลือกใช้ เครื่องดื่มผสมนมต้องประกอบด้วย Espresso Shot ผสมกับนมวัวที่ผ่านการสตรีมในปริมาตรไม่เกิน 240 ml ต่อแก้ว
3. Signature Beverage (คะแนนเต็ม 38 คะแนนต่อ Sensory Judge)
Signature Beverage x 4 Serves
สำหรับ Signature Drink เป็นเครื่องดื่มที่ต้องโชว์ความคิดสร้างสรรค์ และการเลือกใช้ส่วนประกอบต่างๆมาประกอบเพื่อเสริมเอกลักษณ์ในรสชาติกาแฟที่ตัวเองเลือกใช้ให้มีรสชาติที่ชัดเจนมากยิ่งขึ้น Singnature Drink ต้องประกอบด้วย Espresso 4 Shots และส่วนผสมที่ผู้เข้าแข่งขันเตรียมมา
*มีข้อห้ามคือห้ามผสมแอลกอฮอล์ลงไปในเครื่องดื่ม
Judge
สำหรับการแข่งขัน World Barista Championship จะมีกรรมการทั้งหมด 3 ประเภทด้วยกัน
Sensory Judge : ทำหน้าที่ให้คะแนนรสชาติของเครื่องดื่มที่ผู้เข้าแข่งขันเสิร์ฟTechnical Judge : ทำหน้าที่ให้คะแนนเทคนิคต่างๆระหว่างการชงกาแฟของผู้เข้าแข่งขัน เช่น การ Tamp, การดูแลบริเวณการชง, การใช้ผ้าเช็ดของ Head Judge : จะดูภาพรวมและความสม่ำเสมอของรสชาติที่ผู้เข้าแข่งขันเสิร์ฟให้ Sensory Judge
การให้คะแนนของ World Barista Championship
รอบ Preliminary
*คะแนนรวมจะมาจาก Sensory Judge 4 ท่าน รวมกับ Technical Judge 1 ท่านไม่มี Head judge
คะแนนเต็มของ Sensory Judge 162 คะแนน x 4 = 648 คะแนนคะแนนเต็มของ Technical Judge 71 คะแนน x 1 = 71 คะแนนคะแนนรวมทั้งหมดจะอยู่ที่ 719 คะแนน
รอบ Semi- final และ รอบ Final
*คะแนนรวมจะมาจาก Sensory Judge 4 ท่าน รวมกับ Head Judge ;ไม่มี Technical
คะแนนเต็มของ Sensory Judge 162 คะแนน = 648 คะแนนคะแนนเต็มของ Head Judge 6 คะแนน = 6 คะแนนคะแนนรวมจะอยู่ที่ 654 คะแนน
สำหรับผู้ที่ได้คะแนนสูงสุดในรอบสุดท้ายก็จะคว้าแชมป์ World Barista Championship ไปครอง
ความท้าทาย
การที่ผู้เข้าแข่งขันจำเป็นต้องเสิร์ฟกาแฟเพียงแค่ 3 ชนิดให้กรรมการภายในเวลาแค่ 15 นาที ไม่ได้เกิดจากความสามารถชั่วข้ามคืน แต่มาการเตรียมพร้อมของทีมก่อนที่จะเข้าสู่การแข่งขัน
เนื่องจากระดับการแข่งขันที่เข้มข้นขึ้นทุกปี ดังนั้นการเข้าร่วมแข่งขันจึงมีความท้าทายมากยิ่งขึ้น กาแฟที่ผู้เข้าร่วมแข่งขันใช้ก็มักจะมีราคาที่แพงขึ้นเรื่อยๆ อุปกรณ์ที่ใช้ในการแข่งขันจึงซับซ้อนขึ้นยกตัวอย่างเช่นผู้ที่ชนะเลิศปี 2017 ใช้เครื่อง HPLC ในการวิเคราะห์กาแฟตัวเองการแข่งขัน
ดังนั้นการแข่งขัน World Barista Championship แสดงถึงความพิถีพิถัน ตั้งแต่การเลือกกาแฟ, เลือกวิธีการคั่วกาแฟ, ความคิดสร้างสรรค์ในการสร้าง Signature Beverage, การวางแผนการแข่งขัน และความพยายามที่ใช้ในซ้อมอีกนับไม่ถ้วนของทีมผู้เข้าแข่งขันทุกๆทีม
Reference