10 สิงหาคม – Brooklyn Roasting Company และ IBM ได้ร่วมมือกันนำเทคโนโลยี Blockchain มาใช้ในการติดตามการขนส่งเมล็ดกาแฟจาก Yirgacheffe ในประเทศ Ethiopia ในโปรเจคที่ชื่อว่า Blockchain Bean
อ่านเพิ่มเติม Blockchain คืออะไร
Blockchain Bean
โปรเจคที่นำเทคโนโลยี Blockchain มาใช้เก็บข้อมูลเกี่ยวกับการส่งออก และข้อมูลต่างๆที่เกียวข้องกับเมล็ดกาแฟจำนวน 150 กระสอบจาก Banko Gotiti co-operation
เมื่อมีการซื้อขายเกิดขึ้น Blockchain ข้อมูลหรือเอกสารที่เกิดขึ้นจะถูกเก็บในรูปของ Block และเข้ารหัสในแต่ละขั้นตอน ซึ่ง Block เหล่านี้จะถูกนำมาต่อกันโดยใช้ข้อมูลของ Block แรกมานำมาสร้าง Block ต่อไปเป็นสายหรือ Blockchain
ข้อมูลในโปรเจค Blockchain Bean
1. ขั้นตอนในการสั่งซื้อ
Royal Coffee ได้ทำการสั่งซื้อเมล็ดกาแฟจำนวน 150 กระสอบจาก Banko Gotiti co-operation ผ่าน Yirgacheffe Coffee Farmer Cooperative Union และได้ลงทุนช่วยเหลือในด้านอื่นๆด้วยเช่น ช่วยสร้างโรงเรียน, ทำถนน, และช่วยเหลือด้านอาหาร
ในขั้นตอนนี้ Blockchain Bean จะทำการเก็บสัญญารวมทั้งยอดเงินที่เกียวข้องกับการลงทุนต่างๆไว้ในขั้นตอนแรก
2. การส่งออกจากประเทศต้นทาง
เมล็ดกาแฟ 150 กระสอบได้ถูกส่งมายังท่าเรือ Djibouti และถูกส่งออกผ่านทางเรือ Northern Magnum เส้นทาง 1707 ไปยังสหรัฐอเมริกา
ในขั้นตอนส่งออก Blockchain Bean จะเก็บข้อมูลชื่อของเรือ เส้นทางการเดินเรือ รวมทั้งชื่อเอกสารทั้งหมดที่เกียวกับการส่งออก
3. การนำเข้าประเทศปลายทาง
เมื่อเมล็ดกาแฟมาถึงประเทศสหรัฐอเมริกา Royal Coffee ก็จะทำการควรสอบคุณภาพของสินค้าก่อนที่จะทำการส่งให้กับทาง Brooklyn Roasting Company
Blockchain Bean จะเก็บข้อมูลของสินค้าว่ามีความเสียหาย หรือลักษณะของสินค้าที่ได้รับที่ประเทศปลายทาง
4. การตรวจสอบคุณภาพและให้คะแนนเมล็ดกาแฟ
ทาง Royal Coffee ก็จะส่งตัวอย่างเมล็ดกาแฟไปให้กับ Brooklyn Roasting Company เพื่อทำการคั่วและ Cupping เพื่อตรวจสอบคุณภาพ
ซึ่งคุณภาพของเมล็ดกาแฟก็จะถูกเก็บอยู่ใน Blockchain Bean ว่ามีคะแนน Cupping เท่าไร รวมทั้งในแต่ละหัวข้อเช่น Acidity, Body ได้คะแนนเท่าไร
5. ผู้บริโภค
Brooklyn Roasting Company จะทำการคั่วและเสิร์ฟให้แก่ลูกค้า โดยที่ลูกค้าสามารถนำรหัสที่อยู่บนแก้วมาตรวจสอบข้อมูลในทุกขั้นตอนข้างต้นได้ผ่านทาง Your Cup
สรุป
จะเห็นได้ว่าเทคโนโลยี Blockchain กำลังจะถูกนำมาใช้ในอุตสาหกรรมที่หลากหลาย โดยเฉพาะอุตสาหกรรมที่เกี่ยวเนื่องกับความโปร่งใส
ซึ่งเมล็ดกาแฟแบบ Single Origin ก็เป็นหนึ่งในสินค้าที่ผู้บริโภคต้องการรู้จักที่มาที่ไปของเมล็ดกาแฟ ทำให้เกิดความน่าเชื่อถือถึงแหล่งที่มา, ความโปร่งใสในการซื้อขาย, รวมทั้งเงินที่เกษตรกรได้รับได้ชัดเจนมากขึ้น ซึ่งจะนำไปสู่การซื้อขายอย่างยั่งยืน
Reference